เเมกซ์เวลล์
ตามกฎของฟาราเดย์ที่กล่าวไว้ว่าสนามเเม่เหล็กไฟฟ้าเปลี่ยนเเปลงตลอดเวลา จะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามไฟฟ้าที่กำลังจะเปลี่ยนเเปลง เเมกซ์เวลล์ได้เสนอเเนวคิดที่กลับกันคือสนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนเเปลงตลอดเวลาจะเหนี่ยวนำให้เกิดสนามเเม่เหล็กที่กำลังเปลี่ยนเเปลง
สรุปจากสมการของแมกซ์เวลส์
จะได้
1. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก
(∆B) จะทำให้เกิดสนามไฟฟ้า ( E ) รอบๆ การเปลี่ยนแปลงสนามเหล็กนั้น
2. ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้า
( ∆E ) จะทำให้เกิดสนามแม่เหล็ก ( B ) รอบๆ
การเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้านั้น
รูปที่ 1 a) การ
เปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำให้เกิดสนามไฟฟ้ารอบๆการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก
b) การเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้าเหนี่ยวนำให้เกิดสนามแม่เหล็กรอบๆการเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้า
1.1 การหาทิศสนามไฟฟ้าจากเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก ∆B อาศัยกฎเลนส์
โดยมีขั้นตอนดังนี้
1. กำหนดทิศการเปลี่ยนแปลงสนามแม่เหล็ก
( ∆B )
2. กำหนดทิศสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำ
(Bน )
มีทิศตรงข้ามกับ ∆B
3. หาทิศทางของสนามไฟฟ้าจากสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำ
Bน โดยใช้กฎมือขวาให้นิ้ว
หัวแม่มือแทนทิศของสนามแม่เหล็กเหนี่ยวนำ
จะได้ปลายนิ้วทั้งสี่แทนทิศของสนามไฟฟ้า
1.2การหาทิศสนามแม่เหล็กจากการเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้า
( ∆E )
1. หาทิศการเปลี่ยนสนามไฟฟ้า
( ∆E)
2. หาทิศสนามแม่เหล็กที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสนามไฟฟ้า
( ∆E ) โดยใช้กฎมือ
ขวาให้นิ้วหัวแม่มือแทนทิศของ E ปลายนิ้วทั้งสี่จะแทนทิศสนามแม่เหล็ก
คลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้าตามทฤษฎีของเเมกซ์เวลล์จะประกอบด้วยสนามเเม่เหล็กเเละสนามไฟฟ้าที่เปลี่ยนเเปลงตามเวลาในระนาบที่ตั้งฉากกัน โดยการเหนี่ยวนำกันอย่างต่อเนื่องกันไป ส่งผลให้เกิดคลื่นเเม่เหล็กไฟฟ้าเเผ่ออกไปจากเเหล่งกำเนิด ซึ่งการเหนี่ยวนำลักษณะนี้จะเกิดสลับกันอย่างต่อเนื่อง
สรุป สมบัติของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าตามทฤษฎีของแมกซ์เวลล์
1. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกชนิดต้องมีความเร็วเท่าแสง
2. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าทุกตัวมีพลังงาน
3. ถ้าคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าถูกดูดกลื่นจะทำให้วัตถุที่รับคลื่นนั้นร้อนขึ้น
4. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าชนิดใดก็ตาม เมื่อเกิดขึ้นแล้วต้องมีวิธีการที่จะส่งพลังงานต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น